มาตรา ๙๕๐ ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังจะระบุบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดไว้ก็ได้ว่าเป็นผู้จะรับรอง หรือใช้เงินยามประสงค์ ณ สถานที่ใช้เงิน
ภายในเงื่อนบังคับดั่งจะกล่าวต่อไปข้างหน้า บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจะรับรองหรือใช้เงินตามตั๋วแลกเงินในฐานเป็นผู้สอดเข้าแก้หน้าบุคคลใดผู้ลงลายมือชื่อในตั๋วนั้นก็ได้
ผู้สอดเข้าแก้หน้านั้นจะเป็นบุคคลภายนอกก็ได้ แม้จะเป็นผู้จ่ายหรือบุคคลซึ่งต้องรับผิดโดยตั๋วเงินนั้นอยู่แล้วก็ได้ ห้ามแต่ผู้รับรองเท่านั้น
ผู้สอดเข้าแก้หน้าจำต้องให้คำบอกกล่าวโดยไม่ชักช้า เพื่อให้คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้านั้นทราบการที่ตนเข้าแก้หน้า
มาตรา ๙๕๑ การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้า ย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกำหนดตามตั๋วเงินอันเป็นตั๋วสามารถจะรับรองได้
การ รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ผู้ทรงจะบอกปัดเสียก็ได้ แม้ถึงว่าบุคคลผู้ซึ่งบ่งไว้ว่าจะเป็นผู้รับรอง หรือใช้เงินยามประสงค์นั้นจะเป็นผู้เสนอเข้ารับรองก็บอกปัดได้
ถ้าผู้ทรงยอมให้เข้ารับรองแล้ว ผู้ทรงย่อมเสียสิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกำหนดเอาแก่คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตน
มาตรา ๙๕๒ อันการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ย่อมทำด้วยเขียนระบุความลงบนตั๋วแลกเงิน และลงลายมือชื่อของผู้สอดเข้าแก้หน้าเป็นสำคัญ อนึ่งต้องระบุลงไว้ว่าการรับรองนั้นทำให้เพื่อผู้ใด ถ้ามิได้ระบุไว้เช่นนั้นท่านให้ถือว่าทำให้เพื่อผู้สั่งจ่าย
มาตรา ๙๕๓ ผู้รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วเงินนั้น และรับผิดต่อผู้สลักหลังทั้งหลายภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้าอย่าง เดียวกันกับที่คู่สัญญาฝ่ายนั้นต้องรับผิดอยู่เอง
มาตรา ๙๕๔ อันการใช้เงินเพื่อแก้หน้าย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยเมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดหรือก่อนถึงกำหนด
การใช้เงินนั้น ท่านว่าอย่างช้าที่สุดต้องทำในวันรุ่งขึ้น แต่วันท้ายแห่งกำหนดเวลาซึ่งจำกัดอนุญาตไว้ให้ทำคำคัดค้านการไม่ใช้เงิน
มาตรา ๙๕๕ ถ้าตั๋วแลกเงินได้รับรองเพื่อแก้หน้าแล้วก็ดี หรือได้มีตัวบุคคลระบุว่าเป็นผู้จะใช้เงินยามประสงค์แล้วก็ดี ผู้ทรงต้องยื่นตั๋วเงินนั้นต่อบุคคลนั้น ๆ ณ สถานที่ใช้เงิน และถ้าจำเป็นก็ต้องจัดการทำคำคัดค้านการไม่ใช้เงินอย่างช้าที่สุดในวันรุ่ง ขึ้นแต่วันท้ายแห่งกำหนดเวลาอันจำกัดไว้เพื่อทำคำคัดค้าน
ถ้าไม่คัดค้านภายในกำหนดเวลานั้น ท่านว่าคู่สัญญาฝ่ายที่ได้ระบุตัวผู้ใช้เงินยามประสงค์ หรือคู่สัญญาฝ่ายซึ่งได้มีผู้รับรองตั๋วเงินให้แล้วนั้น กับทั้งบรรดาผู้สลักหลังในภายหลังย่อมเป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด
มาตรา ๙๕๖ การใช้เงินเพื่อแก้หน้านั้น ใช้เพื่อคู่สัญญาฝ่ายใดต้องใช้จงเต็มจำนวนอันคู่สัญญาฝ่ายนั้นจะต้องใช้ เว้นแต่ค่าชักส่วนลดดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๙๖๘ (๔)
ผู้ทรงคนใดบอกปัดไม่ยอมรับเงินอันเขาใช้ให้ ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นย่อมเสียสิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นซึ่งพอที่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิดเพราะการใช้เงินนั้น
มาตรา ๙๕๗ การใช้เงินเพื่อแก้หน้าต้องทำให้เป็นหลักฐานด้วยใบรับเขียนลงในตั๋วแลกเงิน ระบุความว่าได้ใช้เงินเพื่อบุคคลผู้ใด ถ้ามิได้ระบุตัวไว้ดั่งนั้น ท่านให้ถือว่าการใช้เงินนั้นได้ทำไปเพื่อผู้สั่งจ่าย
ตั๋วแลกเงินกับทั้งคำคัดค้านหากว่าได้ทำคัดค้าน ต้องส่งให้แก่บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้า
มาตรา ๙๕๘ บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้าย่อมรับช่วงสิทธิทั้งปวงของผู้ทรงอันมีต่อคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนได้ใช้เงินแทนไป และต่อคู่สัญญาทั้งหลายผู้ต้องรับผิดต่อคู่สัญญาฝ่ายนั้น แต่หาอาจจะสลักหลังตั๋วแลกเงินนั้นอีกต่อไปได้ไม่
อนึ่ง บรรดาผู้ซึ่งสลักหลังภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งเขาได้ใช้เงินแทนไปนั้นย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
ในกรณีแข่งกันเข้าใช้เงินเพื่อแก้หน้า ท่านว่าการใช้เงินรายใดจะให้ผลปลดหนี้มากรายที่สุด พึงนิยมเอารายนั้นเป็นดียิ่ง
ถ้าไม่ดำเนินตามวิธีดั่งกล่าวนี้ ท่านว่าผู้ใช้เงินทั้งที่รู้เช่นนั้นย่อมเสียสิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายซึ่งพอที่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2505
ผู้สั่งจ่ายออกตั๋วแลกเงินสั่งให้ผู้จ่ายใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้รับเงิน มีบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับอาวัลด้วย ผู้จ่ายลงนามรับรองแล้ว แต่ไม่ใช้เงินให้ผู้รับเงิน ต่อมาผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลทำบันทึกมอบให้ผู้รับเงินไว้ฉบับหนึ่งมีใจ ความว่า ขอรับใช้เงินตามตั๋วแลกเงินดังกล่าวนั้นร่วมกันและแทนกัน แต่ขอผัดวันชำระไป และเพื่อเป็นสินเชื่อ ผู้สั่งจ่ายขอนำเอาเครื่องฉายภาพยนต์จำนำผู้รับเงินไว้ การที่ผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลรับรองในเอกสารอื่นมิได้เขียนระบุความลงบน ตั๋วแลกเงินนั้นเอง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 952 เช่น นี้ เรียกไม่ได้ว่า เป็นการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าและบันทึกดังกล่าวเป็นเพียงผู้สั่งจ่าย เพิ่มหลักประกันให้ผู้รับเงินเพื่อให้ผ่อนเวลาชำระเงินออกไป มิได้เปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้เดิม หรือตัวเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ทั้งไม่มีข้อความส่อว่าคู่กรณีจะระงับหนี้ตามตั๋วแลกเงิน โดยให้ถือเอาสัญญาตามบันทึกนี้แทน จึงไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ด้วย
ภายในเงื่อนบังคับดั่งจะกล่าวต่อไปข้างหน้า บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจะรับรองหรือใช้เงินตามตั๋วแลกเงินในฐานเป็นผู้สอดเข้าแก้หน้าบุคคลใดผู้ลงลายมือชื่อในตั๋วนั้นก็ได้
ผู้สอดเข้าแก้หน้านั้นจะเป็นบุคคลภายนอกก็ได้ แม้จะเป็นผู้จ่ายหรือบุคคลซึ่งต้องรับผิดโดยตั๋วเงินนั้นอยู่แล้วก็ได้ ห้ามแต่ผู้รับรองเท่านั้น
ผู้สอดเข้าแก้หน้าจำต้องให้คำบอกกล่าวโดยไม่ชักช้า เพื่อให้คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้านั้นทราบการที่ตนเข้าแก้หน้า
มาตรา ๙๕๑ การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้า ย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกำหนดตามตั๋วเงินอันเป็นตั๋วสามารถจะรับรองได้
การ รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ผู้ทรงจะบอกปัดเสียก็ได้ แม้ถึงว่าบุคคลผู้ซึ่งบ่งไว้ว่าจะเป็นผู้รับรอง หรือใช้เงินยามประสงค์นั้นจะเป็นผู้เสนอเข้ารับรองก็บอกปัดได้
ถ้าผู้ทรงยอมให้เข้ารับรองแล้ว ผู้ทรงย่อมเสียสิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกำหนดเอาแก่คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตน
มาตรา ๙๕๒ อันการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ย่อมทำด้วยเขียนระบุความลงบนตั๋วแลกเงิน และลงลายมือชื่อของผู้สอดเข้าแก้หน้าเป็นสำคัญ อนึ่งต้องระบุลงไว้ว่าการรับรองนั้นทำให้เพื่อผู้ใด ถ้ามิได้ระบุไว้เช่นนั้นท่านให้ถือว่าทำให้เพื่อผู้สั่งจ่าย
มาตรา ๙๕๓ ผู้รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วเงินนั้น และรับผิดต่อผู้สลักหลังทั้งหลายภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้าอย่าง เดียวกันกับที่คู่สัญญาฝ่ายนั้นต้องรับผิดอยู่เอง
มาตรา ๙๕๔ อันการใช้เงินเพื่อแก้หน้าย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยเมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดหรือก่อนถึงกำหนด
การใช้เงินนั้น ท่านว่าอย่างช้าที่สุดต้องทำในวันรุ่งขึ้น แต่วันท้ายแห่งกำหนดเวลาซึ่งจำกัดอนุญาตไว้ให้ทำคำคัดค้านการไม่ใช้เงิน
มาตรา ๙๕๕ ถ้าตั๋วแลกเงินได้รับรองเพื่อแก้หน้าแล้วก็ดี หรือได้มีตัวบุคคลระบุว่าเป็นผู้จะใช้เงินยามประสงค์แล้วก็ดี ผู้ทรงต้องยื่นตั๋วเงินนั้นต่อบุคคลนั้น ๆ ณ สถานที่ใช้เงิน และถ้าจำเป็นก็ต้องจัดการทำคำคัดค้านการไม่ใช้เงินอย่างช้าที่สุดในวันรุ่ง ขึ้นแต่วันท้ายแห่งกำหนดเวลาอันจำกัดไว้เพื่อทำคำคัดค้าน
ถ้าไม่คัดค้านภายในกำหนดเวลานั้น ท่านว่าคู่สัญญาฝ่ายที่ได้ระบุตัวผู้ใช้เงินยามประสงค์ หรือคู่สัญญาฝ่ายซึ่งได้มีผู้รับรองตั๋วเงินให้แล้วนั้น กับทั้งบรรดาผู้สลักหลังในภายหลังย่อมเป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด
มาตรา ๙๕๖ การใช้เงินเพื่อแก้หน้านั้น ใช้เพื่อคู่สัญญาฝ่ายใดต้องใช้จงเต็มจำนวนอันคู่สัญญาฝ่ายนั้นจะต้องใช้ เว้นแต่ค่าชักส่วนลดดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๙๖๘ (๔)
ผู้ทรงคนใดบอกปัดไม่ยอมรับเงินอันเขาใช้ให้ ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นย่อมเสียสิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นซึ่งพอที่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิดเพราะการใช้เงินนั้น
มาตรา ๙๕๗ การใช้เงินเพื่อแก้หน้าต้องทำให้เป็นหลักฐานด้วยใบรับเขียนลงในตั๋วแลกเงิน ระบุความว่าได้ใช้เงินเพื่อบุคคลผู้ใด ถ้ามิได้ระบุตัวไว้ดั่งนั้น ท่านให้ถือว่าการใช้เงินนั้นได้ทำไปเพื่อผู้สั่งจ่าย
ตั๋วแลกเงินกับทั้งคำคัดค้านหากว่าได้ทำคัดค้าน ต้องส่งให้แก่บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้า
มาตรา ๙๕๘ บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้าย่อมรับช่วงสิทธิทั้งปวงของผู้ทรงอันมีต่อคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนได้ใช้เงินแทนไป และต่อคู่สัญญาทั้งหลายผู้ต้องรับผิดต่อคู่สัญญาฝ่ายนั้น แต่หาอาจจะสลักหลังตั๋วแลกเงินนั้นอีกต่อไปได้ไม่
อนึ่ง บรรดาผู้ซึ่งสลักหลังภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งเขาได้ใช้เงินแทนไปนั้นย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
ในกรณีแข่งกันเข้าใช้เงินเพื่อแก้หน้า ท่านว่าการใช้เงินรายใดจะให้ผลปลดหนี้มากรายที่สุด พึงนิยมเอารายนั้นเป็นดียิ่ง
ถ้าไม่ดำเนินตามวิธีดั่งกล่าวนี้ ท่านว่าผู้ใช้เงินทั้งที่รู้เช่นนั้นย่อมเสียสิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายซึ่งพอที่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2505
ผู้สั่งจ่ายออกตั๋วแลกเงินสั่งให้ผู้จ่ายใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้รับเงิน มีบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับอาวัลด้วย ผู้จ่ายลงนามรับรองแล้ว แต่ไม่ใช้เงินให้ผู้รับเงิน ต่อมาผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลทำบันทึกมอบให้ผู้รับเงินไว้ฉบับหนึ่งมีใจ ความว่า ขอรับใช้เงินตามตั๋วแลกเงินดังกล่าวนั้นร่วมกันและแทนกัน แต่ขอผัดวันชำระไป และเพื่อเป็นสินเชื่อ ผู้สั่งจ่ายขอนำเอาเครื่องฉายภาพยนต์จำนำผู้รับเงินไว้ การที่ผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัลรับรองในเอกสารอื่นมิได้เขียนระบุความลงบน ตั๋วแลกเงินนั้นเอง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 952 เช่น นี้ เรียกไม่ได้ว่า เป็นการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าและบันทึกดังกล่าวเป็นเพียงผู้สั่งจ่าย เพิ่มหลักประกันให้ผู้รับเงินเพื่อให้ผ่อนเวลาชำระเงินออกไป มิได้เปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้เดิม หรือตัวเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ทั้งไม่มีข้อความส่อว่าคู่กรณีจะระงับหนี้ตามตั๋วแลกเงิน โดยให้ถือเอาสัญญาตามบันทึกนี้แทน จึงไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ด้วย